8 อันดับ ไนท์ครีม ที่ซื้อแล้วไม่ผิดหวัง อัพเดทล่าสุดปี 2567

คูปอง ส่วนลด ในร้านค้าออนไลน์แนะนำของเรา จัดเต็ม โปรลดเยอะ สำหรับ Flash Sale สามารถใช้งานได้ รับข้อเสนอมากมาย กับดีลเด็ดประจำวัน คูปอง ส่วนลด จัดเต็ม สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไว้ใจได้กับโมบาย แอปพลิเคชั่น
สินค้ามาใหม่ ราคาถูกมาก เราขอแนะนำ ไนท์ครีม  สินค้าออนไลน์  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง ไนท์ครีม  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่มีปัญหา

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อไนท์ครีมแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง ไนท์ครีม นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในไนท์ครีมอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ ไนท์ครีมแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

"ไนท์ครีม" หรือ "ครีมบำรุงผิวในเวลากลางคืน" เป็นสกินแคร์ที่มีเอาไว้เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการการฟื้นบำรุงแม้ในยามหลับ โดยไนท์ครีมจะคอยดูแลผิวหน้าไม่ให้ขาดความชุ่มชื้น พร้อมทั้งช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ไนท์ครีมเองก็มีอยู่ด้วยกันอย่างหลากหลาย ซึ่งแบ่งออกได้ทั้งตามเนื้อสัมผัส ส่วนผสม คุณสมบัติพิเศษ และยี่ห้อ ทำให้สาว ๆ หลายคนอาจไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสม โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มหัดดูแลตัวเอง


ในครั้งนี้ บทความของเราจึงจะมาพูดถึงเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับไนท์ครีม เพื่อให้ทุกคนได้ศึกษาสำหรับใช้เป็นแนวทางการเลือกไนท์ครีมให้กับตนเอง พร้อมกับมีการแนะนำสินค้าเกี่ยวกับไนท์ครีมในรูปแบบของ 10 อันดับ ไนท์ครีมจากยี่ห้อต่าง ๆ ที่ขายดีและมีคุณสมบัติที่น่าสนใจค่ะ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ! เพราะเราจะมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้ไนท์ครีมที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณได้รับการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย ถ้าหากอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามตั้งแต่ต้นจนจบให้ได้เลยนะคะ

"ไนท์ครีม" นั้นมีความหมายตามชื่อเลยล่ะค่ะ นั่นก็คือ "ครีมที่ใช้สำหรับการบำรุงยามค่ำคืน" นั่นเอง ซึ่งไนท์ครีมนั้นมักจะมีส่วนผสมเป็นน้ำมันเสียส่วนใหญ่ ทำให้เนื้อครีมค่อนข้างเหนอะหนะ แต่ก็ถือเป็นตัวช่วยที่ทำให้ผิวได้รับการดูแลและปกป้องจากการขาดความชุ่มชื้นที่ดีเลยทีเดียว


แต่นอกเหนือจากการช่วยฟื้นบำรุงความชุ่มชื้นแล้ว ในส่วนผสมอื่น ๆ ของไนท์ครีมยังประกอบด้วยสารสกัดและส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของความอ่อนเยาว์ ช่วยเติมเต็มร่องลึกหรือส่วนที่สึกหรอ และลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี จึงอาจกล่าวได้ว่า นอกจากจะเป็นครีมที่เหมาะสำหรับการเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแล เอาใจใส่ในเรื่องช่วงวัยด้วยเช่นกันค่ะ

สาว ๆ บางคนอาจจะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการเลือกซื้อไนท์ครีม เพราะคิดว่าคงไม่แตกต่างจากการเลือกซื้อเดย์ครีมสักเท่าไหร่ แต่ในความจริงแล้วการเลือกซื้อครีมทั้ง 2 ชนิดนี้มีข้อแตกต่างกันค่ะ ซึ่งเราจะมาดูกันว่า ไนท์ครีมนั้นมีวิธีการเลือกอย่างไรบ้าง

ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบใดก็ตาม "ความชุ่มชื้น" ก็ยังจำเป็นสำหรับผิวของคุณค่ะ เพราะจะช่วยทำให้ผิวมีเกราะป้องกันที่แข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น สำหรับไนท์ครีมที่ว่ากันว่า เป็นตัวช่วยด้านการให้ความชุ่มชื้นที่ดีที่สุดในขณะหลับนั้น เราก็ยังควรที่จะศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสมที่ระบุเอาไว้บนผลิตภัณฑ์เสียก่อนที่จะซื้ออยู่ดีค่ะ เพื่อให้สามารถคาดหวังผลลัพธ์ในการใช้งานที่ดีที่สุดได้ สำหรับส่วนผสมที่ชวยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวนั้น ได้แก่ เซราไมด์ (Ceramide), กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid), กลีเซอรีน (Glycerin), บิวทิลีน ไกลคอล (Butylene Glycol : BG), ไดโพรไพลีน ไกลคอล (Dipropylene Glycol : DPG) และอื่น ๆ


นอกจากนี้ "รีวิว" ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถใช้ประกอบการตัดสินใจได้ด้วยเช่นกันค่ะ เพราะในหลาย ๆ เว็บไซต์มักจะมีผู้มารีวิวโดยกล่าวถึงสภาพผิวของตนเองด้วย หากคุณมีสภาพผิวที่ใกล้เคียงกันกับผู้รีวิว ก็จะนำมาอ้างอิงในการตัดสินใจได้ง่าย แม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลดีแบบ 100% แต่ก็ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ

ไม่ว่าส่วนผสมจะดีสักแค่ไหน แต่หากคุณไม่ชอบเนื้อสัมผัสขณะใช้งานผลิตภัณฑ์ คงเป็นการยากที่จะใช้ต่อจนหมดกระปุกจริงไหมคะ ? ดังนั้น ก่อนการเลือกซื้อไนท์ครีม อย่าลืมเลือกซื้อตัวที่มีเนื้อสัมผัสแบบที่คุณชื่นชอบด้วยนะคะ ซึ่งโดยปกติแล้ว ไนท์ครีมจะมีเนื้อที่ค่อนข้างหนัก หากสาวผิวผสมหรือผิวมันใช้ก็อาจจะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะได้ แต่ก็ใช่ว่าไนท์ครีมจะไม่มีสูตรเนื้อบางเบาเลย เพราะบางแบรนด์ก็ได้พัฒนาเนื้อสัมผัสมาให้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยล่ะค่ะ


และที่สำคัญ อย่าลืมคำนึงถึงเรื่อง "กลิ่นของครีม" ด้วยนะคะ เพราะเรื่องกลิ่นก็เป็นอีกปัจจัยที่บ่งบอกความน่าใช้งานของครีมได้เช่นกันค่ะ บางคนอาจะมีกลิ่นที่ชื่นชอบเป็นของตนเอง แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบกลิ่นหอม ๆ เลยก็ได้ สำหรับคนที่แพ้กลิ่นน้ำหอม เราขอแนะนำแบบไร้กลิ่นหรือกลิ่นธรรมชาติค่ะ นอกจากนี้ การตรวจสอบว่าบรรจุภัณฑ์สามารถเปิดฝาเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายหรือมีของแถมเป็นไม้พายตักครีม (Spatula) มาให้ด้วยหรือไม่ ก็เป็นอีกจุดที่หลายคนใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกครีมด้วยนะคะ


อย่างไรก็ตาม เนื้อสัมผัสและกลิ่นอาจไม่เป็นไปตามรายละเอียดที่เราอ่านจากบนอินเทอร์เน็ตเสมอไป ทางเราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนไปทดลองใช้ครีมที่เคาน์เตอร์แบรนด์ด้วยตัวเองจึงจะดีที่สุดค่ะ เพราะจะได้ทราบว่า ตนเองชื่นชอบไนท์ครีมตัวนั้นจริง ๆ หรือเปล่านั่นเอง

สำหรับใครที่ต้องการการดูแลที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าแค่ให้ความชุ่มชื้น เราขอแนะนำให้คำนึงถึงคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ ของครีมเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะมีอยู่ 2 คุณสมบัติที่สาว ๆ ต้องการ ดังต่อไปนี้

สำหรับใครที่กังวลเรื่องริ้วรอยหรือสัญญาณแห่งความชรา ก็สามารถเลือกไนท์ครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยดูแลเรื่องริ้วรอยและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ได้นะคะ โดยคุณสามารถอ้างอิงตัวอย่างของรายชื่อส่วนผสมที่บ่งบอกถึงความเป็น Anti-Aging ได้ตามนี้เลยค่ะ


- เรตินอล (Retinal)

- อนุพันธ์วิตามินซี (Vitamin C Derivatives)

- ฟูลเลอรีน (Fullerene)

- สารสกัดจากชะเอมเทศ (Dipotassium Glycyrrhizinate)

- โคเอนไซม์ Q10 (Ubiquinone Coenzyme Q-10)

- อัลลันโทนิน (Allantoin)

- สารสกัดจากทองคำขาวบริสุทธิ์ (Colloidal Platinum)

- วิตามินอี (Vitamin E/ Tocopherol)

- ปาล์มมิโตอิล เพนตะเปปไทด์-4 (Palmitoyl Pentapeptide-4)

เรื่องจุดด่างดำและความหมองคล้ำนั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คอยกวนใจสาว ๆ ค่ะ สำหรับใครที่ต้องการฟื้นฟูในจุดนี้ไปพร้อม ๆ กับการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ก็สามารถมองหาไนท์ครีมที่มีส่วนผสมที่เป็น Whitening ร่วมด้วยได้นะคะ สำหรับตัวอย่างของรายชื่อส่วนผสมที่เป็น Whitening ได้แก่


- อนุพันธ์วิตามินซี (Vitamin C Derivatives)

- กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid)

- กรดโคจิก (Kojic Acid)

- กรดเอลลาจิก (Ellagic Acid)

- อาร์บูติน (Arbutin)

- วิตามินบี 3 หรือไนอาซิน (Niacin/Niacimide)

- สารสกัดจากรกแกะ (Placenta Extract)

- สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ (Chamomilla Recutita (Matricaria)Flower Extract)

- 4MSK (Potassium Methoxysalicylate)

หลังจากได้ทราบถึงวิธีการเลือกซื้อเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะมาดูไนท์ครีมจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจจำนวน 10 อันดับกันแล้วค่ะ หวังว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีตัวที่เหมาะสมกับแต่ละคนรวมอยู่ด้วยนะคะ

ตัวนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจากแบรนด์ Himalaya ค่ะ ด้วยส่วนผสมหลักจาก White Lily ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเสื่อมโทรม ดูไม่มีชีวิตชีวา พร้อมกับช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกทำร้ายในแต่ละวัน ผสานด้วยคุณค่าจากมะเขือเทศที่อุดมไปด้วย Flavonoid และ AHA ที่เป็นอีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว จนดูมีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น


ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าจากสารสกัดของผลไม้ตามธรรมชาติอย่างเลม่อนและแอปเปิ้ลที่ช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้นอีก ได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง สาว ๆ ทุกคนจึงใช้ได้อย่างมั่นใจค่ะ

หนึ่งในไนท์ครีมที่หลายคนเลือกซื้อ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Retinol-C Complex ที่มีส่วนช่วยให้คอลลาเจนที่เกิดใหม่ใต้ชั้นผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ริ้วรอยและตีนกาแลดูจางลงหลังจากใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับสีผิวให้ประจ่างใสด้วย Niacinamide หรือวิตามินบี 3 และช่วยบำรุงผิวในแง่ของความชุ่มชื้นด้วยน้ำมันจากดอกทานตะวันและวิตามิน A อีกด้วย


คุณจึงมั่นใจได้ว่า ผิวหน้าของคุณจะได้รับการดูแลอย่างครบถ้วนทุกกระบวนการ ส่วนเนื้อครีมมีสีชมพูอ่อน ๆ กลิ่นหอม เนื้อเนียนละเอียดเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะผิว หลังใช้สัมผัสได้ทันทีว่าผิวดูสดใสขึ้น เมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวค่ะ

ตัวนี้มาพร้อมคุณสมบัติ Anti-Aging เน้น ๆ ค่ะ โดยจะมีความสามารถในการช่วยฟื้นฟูและผลัดเซลล์ผิวด้วย Amino-Peptide Complex ผสานด้วยไฮดรา-เฟิร์มมิ่ง คอมเพล็กซ์ ช่วยคงความอ่อนเยาว์ของผิวและสารสกัดจากน้ำมันมะกอก ช่วยให้สารบำรุงต่าง ๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วขึ้น เนื้อครีมเป็นแบบกึ่งเจล ทาแล้วซึมซาบทันที


หลังจากใช้ต่อเนื่องสักระยะหนึ่งสัมผัสได้ว่า ผิวดูเต่งตึง กระชับมากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสมากขึ้นด้วยคุณค่าจากวิตามิน B3 แถมยังปราศจากสารที่อาจก่อการระคายเคืองกับผิวหน้า จึงเป็นไนท์ครีมที่คุณสมบัติครบครัน แถมยังสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยหายห่วงอย่างแท้จริงค่ะ

ผลิตภัณฑ์ไนท์ครีมจาก Eucerin ตัวนี้มีดีที่นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยเติมร่องริ้วรอย ช่วยให้ผิวดูแน่นกระชับและเรียบเนียนมากขึ้น ด้วยนวัตกรรม High Density Hyaluron Filler ที่มีความสามารถคล้ายคลึงกับการฉีดฟิลเลอร์ ดยผสมผสานด้วยกรดไฮยาลูรอนที่มีอนุภาคขนาดใหญ่และเล็ก จึงเข้าไปช่วยเติมเต็มผิวส่วนที่มีริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ถึงแม้ว่าตัวเนื้อครีมจะค่อนข้างหนักตามแบบฉบับของไนท์ครีมทั่วไป แต่ก็ซึมซาบไว ส่งผลให้เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็สัมผัสได้ทันทีว่า ผิวดูอิ่มฟูและกระชับมากขึ้น หากต้องการให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี ควรใช้อ่ย่างต่อเนื่องนะคะ

ไนท์ครีมสูตรนี้นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นและการบำรุงอย่างล้ำลึกแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูและลดเลือนสัญญาณเตือนแห่งวัยทั้ง 8 จุดสำคัญทั่วใบหน้าด้วยคุณค่าจาก "เซนเทลล่า เอเชียติก้า" หรือที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อของ "ใบบัวบก" ที่มีฤทธิ์ฟื้นฟูความนุ่มนวลของชั้นผิวอย่างล้ำลึก ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ลง


พร้อมช่วยปรับสีผิวให้สว่างใส ส่วนเนื้อครีมนั้นก็เนียนละเอียด เกลี่ยง่าย แต่จะต้องใช้เวลาในการซึมซาบเล็กน้อย ทำให้คนที่มีผิวมันอาจจะไม่ค่อยโปรดปรานสักเท่าไร แต่ก็สามารถปรับใช้ในปริมาณเล็กน้อยแทนได้ หลังจากใช้แล้วควรเข้านอนทันที แล้วคุณจะพบว่า สุขภาพผิวดีขึ้นทันทีที่ตื่นนอนค่ะ

หากคุณกำลังมองหาไนท์ครีมที่ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก พร้อมให้ผลลัพธ์ที่ดีตั้งแต่ตื่นนอน เราขอแนะนำให้ลองไนท์ครีมสูตรนี้ค่ะ โดยกระปุกนี้จะให้การบำรุงผิวของเราด้วยน้ำแร่สีเขียวที่สกัดจากพืชพรรณธรรมชาติต่าง ๆ ด้วยกรรมวิธีที่เรียกว่า Ocean Brew ซึ่งจะเป็นการนำน้ำทะเลมาใช้เป็นวัตถุดิบร่วมกับพืชพรรณธรรมชาติอื่น ๆ เช่น กะหล่ำดาว อาร์ติโชค และถั่วลีมา จนได้ออกมาเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ทรงคุณค่าและให้การปกป้องดูแลผิวอย่างยาวนาน


ที่สำคัญ คือ เนื้อครีมมีความเย็นและเบาสบาย ใช้แล้วจะรู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ เลยล่ะค่ะ แถมยังมีไม้พายตักครีม (Spatula) แถมมาให้ด้วย ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกขึ้นไปอีก

ไนท์ครีมตัวนี้มีความพิเศษหลายอย่างเลยล่ะค่ะ ด้วยความที่เป็นสูตร Oil-free ทำให้เนื้อสัมผัสมีความเบาสบาย ไม่หนักหน้า แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าจากสารสกัดธรรมชาติมากมายที่ช่วยฟื้นบำรุงในขณะที่คุณหลับ เช่น Multi Vitamin ที่คอยบำรุงให้ผิวหน้าของคุณดูสุขภาพดี


พร้อมรับมือกับมลภาวะต่าง ๆ ในวันใหม่ และสารสกัดจากข้าวบาร์เล่ย์ที่มาพร้อมกับสควาเลน ช่วยเติมเต็มผิวส่วนที่แห้งกร้านให้กลับมามีความชุ่มชื้น แลดูอิ่มน้ำอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังให้ความหอมอ่อน ๆ ด้วย Essential Oil แทนที่น้ำหอมปกติอีกด้วยค่ะ

ไนท์ครีมตัวนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจจากสาว ๆ มากมาย ทำให้มีรีวิวในแง่บวกออกมาเยอะด้วยเช่นกันค่ะ ด้วยจุดเด่นหลายประการที่น่าสนใจ แถมยังเหมาะแก่การฟื้นฟูสุขภาพผิวพรรณของทุกคน โดยทั้งช่วยช่วยบำรุงผิวให้สว่างใส พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยในเรื่องของการลดเลือนจุดด่างดำด้วยวิตามินซี และอนุพันธุ์ Resorcinol


พร้อมกันนั้น ยังผสานคุณค่าของสารสกัดจากกุหลาบ มิ้นต์ และต้นเจนเชียน ที่ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังด้วย ในส่วนของเนื้อครีมเองก็ไม่หนักจนเกินไป ทาแล้วจึงยังสบายผิวอยู่ ทำให้ผิวรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นหลังจากตื่นนอนในทุก ๆ วันค่ะ

สำหรับครีมดอกบัวตัวนี้ก็อุดมไปด้วยส่วนผสมหลักจากต้นดอกบัวหรือ Super Lotus ตามชื่อเลยค่ะ โดยสารสกัดชนิดนี้จะมีส่วนเข้าไปช่วยบำรุงผิวหน้าของคุณในตอนกลางคืน เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ ต่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มความกระจ่างใสให้กับ ผสมผสานด้วยคุณค่าจากสารสกัดใบพีช ทำให้ผิวสดชื่นและผ่อนคลายลง มีเนื้อครีมที่เข้มข้นแต่ซึมซาบไว แม้คนผิวมันก็ใช้ได้


แถมยังมีกลิ่นหอมที่ช่วยให้สาว ๆ รู้สึกดียิ่งขึ้น หลายคนที่ใช้ต่างคอนเฟิร์มว่า ตื่นเช้ามาแล้วผิวหน้าดูอิ่มน้ำขึ้นจริง ในส่วนของราคาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เอื้อมถึงได้ง่าย หากใครอยากลองใช้ก็สามารถเลือกซื้อขนาด 15 ml มาลองก่อนได้นะคะ

คนที่กังวลเรื่องของปัญหาผิวและริ้วรอยแห่งความชราในอนาคต จะต้องไม่พลาดครีมกระปุกนี้ค่ะ ด้วยความที่ทางแบรนด์คัดสรรส่วนผสมมาเป็นอย่างดี จึงมีแต่ตัวช่วยที่ทั้งลดเลือนและป้องกันริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Radical New Age Complex เข้มข้นผสานกับพิเทร่า ที่ช่วยให้ผิวแลดูนุ่มนวลเหมือนผิวเด็กและสุขภาพดี


พร้อมกับสารสกัดจากสาหร่ายคลอเรลลา ที่ช่วยลดเลือนและป้องกันเส้นริ้วรอยหรือตีนกาที่บ่งบอกถึงความมีอายุ นอกจากนี้ ยังให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างเป็นธรรมชาติด้วย Shea Butter หลายคนใช้แล้วต่างปลื้มใจจนต้องบอกต่อ แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่งค่ะ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "วิธีการใช้" ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่สามารถส่งผลในการใช้งานได้ ฉะนั้น ใครที่ยังไม่แน่ใจว่าตนเองกำลังใช้ไนท์ครีมผิดวิธีอยู่หรือเปล่า ต้องรีบอ่านข้อมูลด้านล่างนี้เลยค่ะ !

สาว ๆ หลายคนคงจะเคยสังเกตว่า สกินแคร์มีหลายประเภทเหลือเกิน ไม่ว่าจะโทนเนอร์, เซรั่ม, เอสเซนส์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีลักษณะของเนื้อสัมผัสและองค์ประกอบของสูตรที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ "ลำดับการลงสกินแคร์" มีผลต่อการซึมซาบลงสู่ผิว โดยเราจะลงสกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบาก่อน แล้วค่อยลงตัวที่มีเนื้อหนาหนักตามลำดับ ดังต่อไปนี้ค่ะ


1. โทนเนอร์

2. โลชั่นหรือเอสเซนส์

3. เซรั่ม

4. ครีมเนื้อน้ำนม

5. ไนท์ครีม


และก่อนจะทาตัวต่อไป แนะนำให้ทิ้งช่วงสักประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าจะรู้สึกว่าสกินแคร์ซึมซาบลงไปหมดแล้วนะคะ ส่วนอายครีมจะถือเป็นข้อยกเว้น เพราะสามารถใช้ทาได้หลังจากที่ลงไนท์ครีมไปเรียบร้อยแล้วนั่นเองค่ะ

อย่างที่เราบอกกันไปในข้างต้นว่า ไนท์ครีมจะมีเนื้อที่หนาหนักและชุ่มชื้นมากกว่าเดย์ครีม เพราะมีส่วนผสมเป็นน้ำมันในปริมาณสูง ทำให้ถ้าหากใช้ตอนกลางวันอาจจะทำให้รู้สึกเหนอะหนะ เมคอัพไม่สวย ซ้ำยังมีโอกาสจับรวมกับน้ำมันในเครื่องสำอางจนทำให้เกิดสิวอุดตันได้ ดังนั้น จึงควรใช้แค่ตอนกลางคืนอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ

นอกจากบำรุงผิวด้วยไนท์ครีมแล้ว คุณยังควรเลือกเดย์ครีมสำหรับใช้ในตอนกลางวันด้วยนะคะ เพื่อเป็นการปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดและมลภาวะ รวมถึงช่วยฟื้นบำรุงในตอนกลางวันด้วยเช่นกัน ซึ่งบทความด้านล่างนี้ ทางทีมงานได้นำเสนอวิธีการเลือกเดย์ครีมและจัดอันดับสินค้ายอดฮิตมาฝากทุกคนกันค่ะ อย่าลืมกดเข้าไปชมกันนะคะ !

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความนี้ ช่วยให้สาว ๆ ได้ทั้งความรู้และข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อกันแบบจุใจกันไปเลยใช่ไหมคะ ? อย่างไรก็ตาม เราขอเตือนเอาไว้ก่อนว่า หากจะโอนเงินก็อย่าลืมเช็กเกี่ยวกับไนท์ครีมกระปุกนั้น ๆ ให้ดีเสียก่อนว่า เหมาะกับเราจริงไหม โดยคำนึงจากสภาพผิวและปัญหาผิวที่ตัวเราเองรู้สึกกังวลเป็นหลัก จากนั้นให้ดูที่ส่วนผสม เนื้อสัมผัสขณะใช้ พร้อมกับตรวจสอบส่วนผสมว่าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแค่ไหน หรือมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยและเพิ่มความขาว กระจ่างใสบ้างหรือไม่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ


สำหรับใครที่สงสัยว่า หากใช้ไนท์ครีมไปแล้ว ตอนเช้าควรจะใช้เดย์ครีมที่มาคู่กันด้วยหรือเปล่า จริง ๆ แล้วไม่ได้กำหนดตายตัวขนาดนั้นค่ะ เพียงแต่ว่าถ้าใช้ควบคู่กันก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอีก ดังนั้น หากใครที่มีเดย์ครีมที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้ว ทางเราก็ขอแนะนำว่าให้ใช้ได้เลย ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้อยู่จะลองหาซื้อมาใช้ก็ได้หรือจะไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรค่ะ